FLAMING LAMBORGHINI
คำเตือน :: ตอนนี้มีเนื้อหาฉากไม่เหมาะสมระหว่างชายกับชาย 18+
หากไม่ชอบกรุณากดปิดหรือข้ามไปตอนถัดไปค่ะ^^
กรุณาอย่ากดแบม ขอบคุณค่ะ
“ อะไรนะครับ ”
“ ปลดกางเกงออก ”
น้ำเสียงหวานไม่ได้นุ่มนวลเว้าวอนเหมือนทุกครั้ง ครั้งนี้มันหยาบกระด้างจนแทบไม่มีความรู้สึกดีดีหลงเหลือ ใบหน้าหวานนิ่งเรียบยิ่งทำให้ดูเหมือนคำสั่งมากเสียยิ่งกว่าความต้องการ
เพียงแค่คำสั่งของคนเป็นเจ้านายกับบอร์ดี้การ์ดเท่านั้น
“ แต่ว่าที่นี่มัน.. ”
เพี๊ยะ!
“ เป็นแค่บอร์ดี้การ์ดชั้นต่ำ ขัดคำสั่งฉันหรอ ” แรงฟาดเข้าที่ใบหน้าไม่ทำให้เจ็บปวดเท่าคำพูดที่ตะคอกใส่หน้า ปวดหนึบไปทั่วมวลแก้มซ้ายแม้จะมองไม่เห็นแต่ก็รับรู้ได้ว่าอีกไม่นานคงขึ้นเป็นรอยแดงรูปฝ่ามือหากแต่สิ่งที่ปวดยิ่งกว่ากลับเป็นหัวใจ ทั้งเจ็บปวดจวนทรมานทั้งสายตาและคำพูดที่แสนเย็นชา
ราวกับที่ผ่านมามันเป็นแค่ความฝัน
แรงตบที่ข้างแก้มคือสิ่งเตือนใจที่นำไปสู่ความจริงทุกอย่าง
ความจริงที่ว่าเขาเป็นได้แค่บอร์ดี้การ์ดเท่านั้น
ก็แค่บอร์ดี้การ์ดชั้นต่ำ
บอร์ดี้การ์ดชั้นต่ำที่ดูไร้ค่า เหมือนหมาหัวเน่าที่โง่งมงาย
กริ๊ก
ในเมื่อมันเป็นคำสั่ง สถานะที่เป็นเพียงบอร์ดี้การ์ดคงขัดอะไรไม่ได้ มือหนาจัดการปลดหัวเข็มขัดสีเงินออกพร้อมทั้งตะขอกางเกงตามคำสั่งที่ได้รับมอบหมาย
แค่ทำตามหน้าที่เท่านั้น
“ อยู่นิ่งๆ ”
ร่างนวลบางที่เคยนั่งอยู่นิ่งปรี่เข้ามาหาบอร์ดี้การ์ดหนุ่ม สะโพกมนยกตัวสูงวาดทับลงบนหน้าขาที่เปี่ยมไปด้วยมัดกล้ามทั้งสองข้าง ขาเรียวยาวทั้งสองข้างตั้งชันในท่าคุกเข่าลงบนเบาะคร่อมร่างหนาให้อยู่ในโอวาท ร่างนวลบางหันเข้าหาร่างแกร่งดวงตาสีนิลโศกสบกันเนิ่นนานหากแต่ความหมายมันกลับว่างเปล่า
ไร้ซึ่งความหมายใดๆ ในการจ้องมองเปรียบเหมือนหลุมลึกที่ยิ่งพาให้หลงทาง
ปลายนิ้วเย็นลูบผ่านใบหน้าคมหล่อก่อนจะจิกลงปลายคางสาก ตวัดลิ้นเลียชิมริมฝีปากอิ่มของตัวเองก่อนจะบรรจงจุมพิตริมฝีปากหนา ปลายลิ้นร้อนไล้เลียริมฝีปากสากจนชุ่มหากแต่ทำได้เพียงแค่นั้นเพราะริมฝีปากหนาไม่ยอมเปิดปากออกเหมือนทุกครั้ง
เพี๊ยะ
“ เปิดปากออก ” แรงตบอีกครั้งทำให้หน้าคมหันเห ความเจ็บจากรอยแผลเดิมย้ำให้ปวดหนักขึ้นกว่าเก่าจนรับรู้ได้ถึงรสชาติธาตุเหล็กที่คละคลุ้งอยู่ในริมฝีปาก
“ ครับ ” ยอมเปิดปากออกให้ลิ้นร้อนได้แทรกเข้ามาอีกครั้งด้วยความรู้สึกอันว่างเปล่า สัมผัสที่เคยวาบหวานแปรเปลี่ยนเป็นขื่นขม รสเลือดที่คละคลุ้งอยู่ในริมฝีปากทำให้รู้สึกอยากอาเจียน ลิ้นเรียวร้อนที่เคยนุ่มละมุนครั้งนี้กลับรู้สึกเฝื่อนราวกับยาพิษ
ปลายลิ้นเรียวตวัดไล้เลียชิมหยดความหวานปนขมของคราบน้ำหวาน กลิ่นคาวเลือดคละคลุ้งนั้นชวนให้สัญชาตญาณดิบตื่น ทั้งรู้สึกรักและรู้สึกเกลียดในเวลาเดียวกันความรู้สึกทั้งหมดออกมาแทนการกระทำที่บางครั้งปลายลิ้นเรียวก็ตวัดไล้อย่างอ่อนโยนแต่บางครั้งฟันคมก็ขบกัดริมฝีปากหนาจนปริแตก
ปึ๊ด
มือเรียวปลดกระดุมเสื้อสูทออกก่อนจะแยกสาบเสื้อหลุดจากกัน นิ้วเรียวลูบผ่านรางกระดุมเสื้อเชิ๊ตสีขาวก่อนจะกระชากด้วยแรงทั้งหมดที่มี
กระตุกเพียงครั้งเดียวรางกระดุมสวยหยุดออกจากรังหมดทุกเม็ด ด้ายกระดุมบางอันฉีกออกเพราะดึงหลุดออกจากรางเสื้อเชิ๊ตตกลงไปตามพื้นรถแต่สิ่งที่น่าสนใจกว่าคือแผงอกแกร่งที่เต็มไปด้วยมัดกล้ามเน้น ไล่ลงมาที่ซิคแพ็คเรียงสวยราวช็อคโกแลตบาร์
“ ... ”
นิ้วเรียวเย็นลูบผ่านลำคอหนาลากยาวลงมาแผงอกแกร่ง เล็บคมกรีดกรายไปทั่วผิวเนื้อจนขึ้นรอยแดงน่ากลัว ผิวเนื้ออันแสนสวยงามของคนรักสุขภาพถูกกรีดทำลายเป็นทางยาวบางจุดถูกกดจนมีเลือดไหลซึมแต่กระนั้นดูเหมือนเจ้าของริมฝีปากอิ่มที่ขบเม้มแถวซอกคอหนาจะไม่ใคร่สนใจเท่าไหร่นัก
อึก
บอร์ดี้การ์ดหนุ่มกัดฟันแน่นจนขึ้นสันกรามนูนเด่น ริมฝีปากเรียวอิ่มดูไร้พิษภัยขบเม้มดูดดุนจนเกิดรอยรักสีหวานนั้นชวนให้รู้สึกดี หากแต่ไม่กี่วินาทีต่อมาความรู้สึกดีนั้นถูกตีกลับด้วยฟันคมที่ขบกัดจนเกิดรอยบนผิวเนื้อ ร่างหนากระตุกเกร็งแรงกัดชวนเจ็บเสียยิ่งกว่ารอยแผลจากเล็บคมแต่ส่วนที่เจ็บที่สุด
น่าจะเป็นหัวใจที่ถูกทำร้ายมากกว่า
“ ... ” ปลายนิ้วร้อนลูบผ่านลอนกล้ามลงมาที่ไรขนอ่อนตัววีสวย นิ้วเรียวแสนซุกซนลูบผ่านชั้นในสีดำสนิทที่โผล่ออกจากร่องซิปที่ถูกปลดขยำแท่งเนื้อที่นอนนิ่งให้ลุกชัน
อึ๊ก
พยายามสกัดกั้นเสียงครางไม่ให้เปล่งออกมา แกนกายใหญ่ที่ถูกขยำเริ่มดุนดันสู้มือ ด้วยขนาดที่ใหญ่คับพองทำให้ส่วนปลายหลุดจากขอบชั้นในสีดำ ปลายหัวสีชมพูอ่อนนั้นชูชันอาบไล้ด้วยคราบน้ำที่ปริ่มส่วนปลาย นิ้วเรียวร้อนลูบวนอย่างเอ็นดูก่อนจะบีบปลายหัวไม่ให้ได้ปลดปล่อยดั่งใจหวัง
“ อื้อ ”
รู้สึกเสียววูบทั่วท้องน้อย นิ้วร้อนลูบวนบีบคลึงเค้นแท่งเนื้ออย่างเมามันส์จนแข็งเกร็ง ก้อนกลมกลึงสองข้างถูกถูไถอย่างเอ็นดูก่อนความสุขสมชวนล้นปริ่มที่ส่วนปลายจะกลายเป็นอาการปวดหนึบในนาทีถัดมาเพราะไม่ได้รับการปลดปล่อย นิ้วเรียวและอุ้งมือนิ่มถอนออกจากแกนกายใหญ่จนสะโพกหนาเผลอแอ่นตาม ร่างนวลบางขยับกลับไปนั่งที่เบาะข้างกันเหมือนเดิมแต่ครั้งนี้กลับหันเข้าหาร่างหนา
คุณหนูร่างบางเอนนอนไปกับเบาะรถขาเรียวสวยใต้กางเกงสแลคสีดำแยกออกกว้างจนเป้ากางเกงปริตึง ยกศอกตั้งชันกับพื้นเบาะไว้เพื่อประคองศีรษะให้ได้มองเห็นร่างหนาชัด
“ ปลดกางเกงออกสิ ” บอร์ดี้การ์ดหนุ่มขยับกายหนาแทรกเข้าหว่างขาคุณหนูที่แยกออกอย่างเชิญชวน มือหนาจัดการปลดกางเกงสแลคเนื้อดีสีดำออก ปลายนิ้วระอุราวแท่งเหล็กนาบลงผิวนวลช่วงสะโพกมนลูบไล้ผ่านขาเรียวเนื้อเนียนจรดปลายข้อเท้า
กางเกงสแลคและชั้นในสีอ่อนถูกปลดออกจากขาเรียวสวย แสงจากดวงอาทิตย์ที่ลอดผ่านกระจกรถทุกทิศทางกระทบผ่านผิวเนียนยิ่งดูเปล่งประกายไม่ว่าจะเห็นกี่ครั้งก็ชวนให้หลงใหลลูบไล้สูดดมเคล้าคลอ ผิวนวลลออไร้ร่องรอยคล้ำแดด แม้แต่เข่ามนยังเนียนสวยอมชมพู น่องขาเรียวบางที่ชวนให้ทะนุถนอม หากเป็นในยามปกติคงจะก้มไล้สูดดมและขมเม้มเป็นเจ้าของตามนวลเนื้อลออ
แต่ไม่ใช่ในตอนนี้
“ อมสิ ”
ใบหน้าคมโค้งต่ำตามคำสั่ง มือหนาประคองแกนกายสีหวานลิ้นสากตวัดส่วนปลายเข้าโพรงปากร้อน แท่งเนื้อหวานลุกชันสู้ลิ้นเรียวที่ตวัดไล้เลีย
ครอบครองและดูดกลืนจนกระพุ้งแก้มตอบเป็นรูปลำรึง ความหวานปนขมปร่าเย้ายวนหวานหอมให้ตวัดชิดรูดรั้งไล้เลียส่วนปลายซ้ำแล้วซ้ำเล่าริมฝีปากหนาสากห่อได้รูปรูดรั้งตั้งแต่โคนแกนกายสีหวานจรดปลาย นวลเนื้ออ่อนชวนให้หลอมละลายภายใต้โพรงปากร้อน เสียงคราบน้ำอาบไล้แกนกายสีหวานดังเฉอะแฉะเมื่อริมฝีปากร้อนขยับเป็นจังหวะเร็วจวนร้อนแรงดั่งไฟแผดเผา
“ อึก พอ ” ปลายนิ้วเท้าจิกเกร็งเบาะรถแน่นครูดไปตามทางจนเกิดรอยยาว มวลท้องบิดเกร็งแต่ยังไม่ทันได้ปลดปล่อย มือเรียวเล็กกลับดันหน้าผากคมยกขึ้นให้ริมฝีปากร้อนหลุดออกจากแกนกายสีหวานก่อนจะได้ปลดปล่อยความต้องการเต็มโพรงปากร้อน
“ ... ”
“ อยู่เฉยๆ ”
ดันร่างหนาให้พิงชิดประตูรถฝั่งซ้ายก่อนจะยกสะโพกทาบทับตักแกร่ง กอบกุมแกนกายใหญ่ร้อนให้ตั้งชันก่อนจะดันส่วนปลายผลุบหายเข้าไปในช่องทางร้อนที่คับแน่น
อึก
ทั้งบอร์ดี้การ์ดหนุ่มและคุณหนูร่างบางต่างกัดปาก ช่องทางรักค่อยๆ ดูดกลืนแกนกายร้อนเข้าไปทีละนิดสัมผัสได้ถึงเส้นเลือดปูนโปนรอบลำที่เต้นแรง เช่นเดียวกับแกนกายร้อนที่หายเข้าไปในช่องทางร้อนถูกโพรงอุ่นข้างในตอดรัดแน่นตั้งแต่ปลายหัวจรดลำทั้งแท่งจนจวนเผลอปลดปล่อยออกมา
“ อ๊า ”
ขาเรียวชันขึ้นเป็นรูปตัวเอ็มคร่อมตักแกร่งไว้สั่นระริก ไม่อาจทนความเสียวกระสันจนเผลอกระแทกสะโพกมนลงไปจนมิดแท่งร้อน ใบหน้าหวานแหงนหน้าเชิดครางเสียงหวานลั่นรถ
รู้สึกดีจวนทรมาน แต่ก็รู้สึกเจ็บปวดด้วยไม่ต่างกัน
เมื่อคิดถึงว่าใครอีกคนก็เคยได้รู้สึกแบบนี้กับบอร์ดี้การ์ดหนุ่ม ใครอีกคนที่ไม่ใช่เขา
อื้อ
บอร์ดี้การ์ดหนุ่มกัดปากแน่นจนเลือดไหลซึมออกจากมุมปาก มีเวลาตัวอ่อนได้ไม่นานก่อนจะถูกสะโพกมนขย่มกระแทกเข้ากับแกนกายร้อนเป็นจังหวะร้อนแรง แขนเรียวทั้งสองข้างเอื้อมโอบรอบคอคนตรงหน้าแน่นพร้อมควบสะโพกเข้ากับแท่งร้อนด้วยท่วงทำนองร้อนจวนหลอมละลาย
เสียงผิวเนื้อกระทบกันเป็นจังหวะพร้อมทั้งเสียงเฉอะแฉะของคราบน้ำที่ไหลออกมาจากช่องทางรักไล้แกนกายใหญ่จนฉ่ำ
อึก
ปลายเล็บแหลมคมจิกกลุ่มผมหนาก่อนจะกระชากให้ใบหน้าคมหันมามองกัน ดวงตาสีนิลโศกนั้นว่างเปล่ายิ่งทำให้คนบนตักรู้สึกเจ็บปวด
สะโพกมนยิ่งกระแทกเข้ากับแกนกายร้อนด้วยจังหวะที่รวดเร็วจนบอร์ดี้การ์ดหนุ่มกังวลว่าเอวมนที่แสนบอบบางนั่นจะหักเสียก่อน สองดวงตาสีนิลคล้ายกันจดจ้องกันท่ามกลางอากาศที่ร้อนระอุจนคราบเหงื่ออาบไล้ทั่วผิวกาย ราวกับคนตรงหน้าคือคนที่ไม่รู้จัก
ราวกับมีเซ็กส์กับคนที่ไม่รู้จัก
ทั้งที่บรรยากาศแสนร้อนแรง ทั้งที่รู้สึกสุขสมหัวสมองพร่ามัวดั่งล่องลอยอยู่ปุยเมฆนุ่ม ทั้งที่ร่างกายบิดเร่าจวนระเบิดด้วยแรงกามแห่งตัณหา แต่ทำไม
หัวใจกลับเจ็บปวดเหลือเกิน
“ อึก อื้อ ” สองเสียงครวญครางดังลั่นรถยุโรปก่อนที่ทั้งสองจะปลดปล่อยในเวลาใกล้เคียงกัน
แฮ่กๆ
สองร่างนั่งหอบหายใจนาน กอบโกยเอาอากาศบริสุทธิ์เข้าปอดให้ได้มากที่สุดก่อนที่ร่างนวลบางจะเป็นฝ่ายยกสะโพกมนขึ้น
แกนกายใหญ่ที่แช่ค้างช่องทางร้อนถูกคายออกมาทางช่องทางร้อนที่ขมิบรัดจนกระทั่งส่วนปลายหลุดออกมาเป็นอิสระ ตามมาด้วยคราบน้ำสีขาวขุ่นที่ไหลจากช่องทางร้อนย้อยลงมาตามง่ามขาเรียว
“ หน้าที่ของผมหมดแค่นี้ใช่ไหม ”
บอร์ดี้การ์ดหนุ่มเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงเย็นชาช่วยดับไปร้อนของบทรักเมื่อครู่ได้สนิท ทั้งร่างกายและดวงตาของบอร์ดี้การ์ดหนุ่มมันนิ่งสนิท มันไร้ความรู้สึกเสียจนคนถูกจ้องมองต้องหลั่งน้ำตาออกมา
ทั้งที่ในอดีตนั้นเขาเคยได้สายตาที่มองด้วยความอ่อนโยน แม้จะกลั่นแกล้งในฐานะเจ้านายขนาดไหนคนตรงหน้าก็ไม่เคยโกรธเคืองเขา แต่ว่าครั้งนี้มันไม่ใช่แม้จะกลั่นแกล้งด้วยร่างกายเหมือนเดิมแต่สิ่งที่ได้กลับมาคือความเย็นชา
เพราะนอนกับคุณเลขาจินยองมาใช่ไหม
สายตาคู่นี้ถึงได้เปลี่ยนไป
“ ฮึก ขอร้องล่ะ ” ในที่สุดร่างนวลบางก็เป็นฝ่ายทนความเจ็บปวดไม่ไหวโอบกอดเอวหนาจากด้านหลังบอร์ดี้การ์ดหนุ่มกำลังหันหลังใส่กางเกงให้กันอยู่
“ ... ”
“ คุณจะนอนกับคุณเลขาจินยองกี่ครั้งก็ได้ แต่กลับมาเป็นเหมือนเดิมเถอะนะ ได้โปรดกลับมาเป็นคุณบอร์ดี้การ์ดคนเดิม ”
แม้จะไม่ใช่แค่ของผมคนเดียว
ผมยอมทนได้ แต่หากต้องสูญเสียความเป็นคุณไปผมทนไม่ได้
“ คุณหมายถึงอะไร ”
“ ได้โปรด รักฉันเหมือนเดิมได้ไหม ” เว้าวอนด้วยน้ำเสียงแหบพร่า ยอมพลีกายให้คนตรงหน้าเพื่อหวังให้คนตรงหน้าอยู่ด้วยกัน น้ำตาที่ไหลออกมาไม่ขาดสายเพราะเจ้าของน้ำตากำลังรู้สึกแทบขาดใจ
“ คุณเข้าใจผิดแล้ว ”
“ ... ”
“ ไม่ว่าเมื่อไหร่ผมก็รักคุณเสมอ ”
“ ฮึก ”
“ และก็ ผมไม่เคยนอนกับคุณเลขาจินยองเลยซักครั้ง ”
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น